สัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) รักษาอัมพาตหาย


ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง เป็นประธานการแถลงข่าว "วันโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day) เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ปี 2559" เดือนที่ผ่าน กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาที่สำคัญ เนื่องจากเป็นโรคที่พบบ่อยและมีอัตราความพิการและเป็นอัมพาตสูง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) พบว่ามีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสูงถึง 15 ล้านคนต่อปี หนึ่งในสามของผู้ป่วยดังกล่าวจะเสียชีวิต ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 ของสาเหตุการตายทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ป่วยที่รอดชีวิตส่วนใหญ่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการเป็นอัมพาตภาวะทุพพลภาพเรื้อรังอีกด้วย

อัมพาต & สมอง
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดถ้าสมองได้รับออกซิเจนและอาหารที่เพียงพอ ที่มีอยู่ในเลือดมาบำรุงเลี้ยง การทำงานของร่างกายก็จะเป็นปกติ เนื่องจากทำหน้าที่ควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งเป็นอวัยวะที่ใช้ในการคิดวางแผน จดจำสิ่งต่างๆ สมองได้รับออกซิเจนและอาหารในเลือดจากหลอดเลือด การวัดค่าออกซิเจนในเลือดสามารถวัดออกซิเจนปลายนิ้วได้จาก เครื่องวัดออกซิเจน (Pulse Oximeter) หากหลอดเลือดเหล่านั้นตีบ ตัน หรือแตก ออกซิเจนและอาหารที่ไม่เพียงพอในเลือดก็จะส่งผลให้ร่างกายอาจเกิดความพิการและอัมพาตได้หากมาพบแพทย์ไม่ทันอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เสียชีวิต หรือเป็นอัมพาต คือ การเพิกเฉยต่ออาการหรือสัญญาณเตือนของร่างกาย เช่น ตาพร่ามัว ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดลำบาก ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้คนส่วนมากมองข้ามไปแต่สามารถป้องกันได้ถ้ารู้ล่วงหน้าก่อน 

ความดันโลหิตสูง & อัมพาต
นอกจากนี้ โรคความดันโลหิตสูง ภาวะนี้เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและทำให้เกิดโรคอัมพาตได้มากทั้งชนิดหลอดเลือดแตกและหลอดเลือดตีบ ภาวะโรคความดันโลหิตสูงนี้จะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเป็นอัมพาตมากกว่าคนปกติสูงถึง 3 – 17 เท่า แล้วแต่อายุความรุนแรงของความดันโลหิตสูง โดยอายุที่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้นการออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรงจึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดอัมพาตนี้ได้อีกทางหนึ่ง รวมทั้งควรหมั่นตรวจวัดความดันด้วย เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor) สำหรับตรวจสุขภาพเองจากที่บ้านอย่างสมำเสมอ ก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเป็นอัมพาตได้เช่นกัน

รักษาอัมพาตหาย
อย่างไรก็ตามก็มีข่าวดีที่สามารถรักษาอัมพาตหายได้แล้ว นักวิจัยจากสวิสฯสามารถรักษาอัมพาตหายได้ในลิงโดยใช้อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi)จากสมอง ได้เป็นครั้งแรกของโลกนับเป็นวิวัฒนาการทางการแพทย์เลยที่เดียว โดยทีมนักวิทยาศาสตร์มาจาก Swiss Federal Institute of Technology ได้เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยได้เผยแพร่ผลการทดลองรักษาอัมพาตหายที่ขาของลิงโดยใช้สัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยตีพิมพ์ผลงานลงในวารสาร Nature นักวิจัยระบุว่า แม้ขั้นตอนรักษาอัมพาตหายได้นั้นอาจจะดูซับซ้อน แต่ขั้นตอนทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาครู่เดียวเท่านั้น และทำให้ลิงสามารถกลับมาควบคุมขาข้างที่เป็นอัมพาตบางส่วนได้ภายใน 6 วัน และยังสามารถเดินเป็นเส้นตรงได้อีกด้วย

สัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) & สัญญาณไฟฟ้าในสมอง
โดยทีมนักวิจัยได้ทำการรักษาอัมพาตหายในลิงวอกที่เป็นอัมพาตที่ขาข้างหนึ่ง เนื่องจากไขสันหลังถูกทำลายและเสียหายจนไม่สามารถส่งสัญญาณประสาทจากสมองไปยังร่างกายได้ มีผลทำให้ลิงไม่สามารถขยับขาได้และเป็นอัมพาต โดยนักวิจัยใช้วิธีการฝังชิปลงไปที่สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งชิปนี้ก็จะอ่านสัญญาณไฟฟ้าในสมอง ขณะที่มีคำสั่งให้เคลื่อนไหว จากนั้นจะส่งสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi)ไปให้คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ซึ่งคอมพิวเตอร์ก็จะแปลงสัญญาณไฟฟ้าในสมองเป็นคำสั่งการเคลื่อนไหว และส่งไปยังชิปที่ฝั่งอยู่ที่กระดูกสันหลังอีกทีหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเส้นประสาทด้วยสัญญาณไฟฟ้าในสมองให้เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น

โครงการ รักษาอัมพาต ในมนุษย์
ดร.เกรกอเร่ คูร์ทีน หนึ่งในนักวิจัย กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นิวโรเทคโนโลยีสามารถทำให้ไพรเมทสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้งด้วยสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) อย่างไรก็ตาม การทดลองรักษาด้วยสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi)ดังกล่าวนั้น ลิงยังสามารถเดินได้แบบเป็นเส้นตรงเท่านั้น และยังไม่มีโอกาสทดสอบการเดินแบบอื่น เช่น การควบคุมเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งเชื่อว่าทำได้ยากกว่า เพราะต้องควบคุมกล้ามเนื้อหลายมัด นอกจากนี้ ลิงวอกยังเป็นสัตว์ที่ใช้ 4 ขาเดิน การรักษาอัมพาตหายข้างเดียวจึงอาจทำได้ง่ายกว่าคนที่ต้องใช้ 2 ขาเดิน และขาของมนุษย์มักเป็นอัมพาต 2 ข้างพร้อมกัน ทั้งนี้โครงการ รักษาอัมพาต ในมนุษย์ นักวิจัยคาดว่าเทคนิคการรักษาด้วยสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) นี้จะสามารถนำมารักษาอัมพาตกับมนุษย์ได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า 

Cr.ข่าวประชาชาติธุรกิจ,ผู้จัดการ